ในชีวิตหนึ่ง ต้องไปให้ได้สักครั้ง น้ำตกทีลอซู

น้ำตกทีลอซู ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ห่างจากที่ทำการเขตฯ 3 กิโลเมตร ทีลอซู เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า น้ำตกดำ มีลักษณะเป็นน้ำตกภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 900 เมตร เกิดจากลำห้วยกล้อท้อ ลำน้ำทั้งสายตกลงสู่หน้าผาสูงชัน มีน้ำไหลแรงตลอดปี ความกว้างของตัวน้ำตกประมาณ 500 เมตร ไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ มีความสูงประมาณ 300 เมตร ล้อมรอบด้วยป่าดงดิบที่สมบูรณ์ เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของเอเชีย[ต้องการอ้างอิง]
ตามความจริงต้องออกเสียงว่า "ทีลอชู" และเป็นคำนามในภาษากะเหรี่ยงแปลว่า "น้ำตก" ชื่อ "ทีลอซู" เป็นความพยายามแปลความหมายทีละคำ โดย "ที" หรือ "ทิ" แปลว่า "น้ำ" "ลอ" หรือ "ล่อ" แปลว่า "ตก" แต่ "ชู" ไม่มีความหมายใกล้เคียง ดังนั้น จึงมีความพยายามทำให้เป็นคำที่มีความหมาย เนื่องจาก "ซู" แปลว่า "ดำ" จึงนำไปสู่การเรียกว่า "ทีลอซู" และแปลว่า "น้ำตกดำ"
(ข้อมูลจากไกด์ท้องถิ่นชาวไทยภูเขาบอกว่า "ทีลอ" แปลว่า "น้ำตก" ส่วน "ซู" ในภาษาไทยภูเขาแปลว่า "ใหญ่" ในพื้นที่ยังมีน้ำตกที่ใกล้กันชื่อน้ำตก "ทีลอจ่อ" ซึ่งแปลว่าน้ำตกน้อง หรือน้ำตกเล็ก)
ทีลอซู ได้รับคำกล่าวขานถึงว่าเป็นน้ำตกที่สวยงาม และมีความสวยงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูฝน ระหว่าง 1 มิ.ย. - 31 พ.ย. ปริมาณน้ำฝนที่มากจะเพิ่มปริมาณน้ำในลำธารทำให้สายน้ำตกกว้างใหญ่กว่าฤดูอื่น แต่เป็นช่วงที่ทางรถเข้าน้ำตกปิด เพื่อป้องกันอันตรายแก่ผู้ใช้เส้นทางและถนอมสภาพทางไม่ให้เสียหาย นักท่องเที่ยวอาจเลี่ยงใช้เส้นทางนี้ได้ โดยการซื้อทัวร์กับบริษัทนำเที่ยวซึ่งจะเดินทางด้วยเรือยางและเดินป่าอีกราว 12 กม.แต่หากมาท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาว - ฤดูร้อนระหว่าง 1 ธ.ค. - 31 พ.ค. ก็สามารถใช้ทางรถยนต์เข้าน้ำตกได้ จึงเป็นช่วงเวลาที่เที่ยวได้สะดวกที่สุด ไม่ว่าจะเที่ยวแบบไปกลับหรือพักค้างแรม
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้กำหนดให้น้ำตกทีลอซู เป็นหนึ่งในเก้าตะวัน ตามโครงการมหัศจรรย์เมืองไทย 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน โดยมีจุดเด่นคือ "มหัศจรรย์รุ้งกินน้ำที่น้ำตกทีลอซู"

ที่มา วิกีพีเดีย

ที่มา: http://variety.teenee.com/foodforbrain/72722.html

คน “รวย” สุด 1% ของโลก ครอบครอง “ทรัพย์สิน” กว่าครึ่งโลก!!!!

นี่เป็นสิ่งที่ตอกย้ำว่าช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนบนโลกนี้มันช่างกว้างเสียเหลือเกิน หลังจากรายงานจากธนาคารการลงทุน Credit Suisse ระบุว่า ปัจจุบันทรัพย์สินกว่าครึ่งโลกอยู่ในมือของประชากรเพียง 1 % เท่านั้น ความไม่เท่าเทียมระหว่างคนรวยและคนจนนับวันจะยิ่งห่างขึ้นเรื่อยๆ สัดส่วนการครอบครองสินทรัพย์ตามภูมิภาค Credit Suisse   ในขณะที่มหาเศรษฐีต่างๆสามารถดึงตัวเองกลับมาหลังภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่กำลังการใช้จ่ายของชนชั้นกลางนั้นยังคงชะลอตัวอยู่เช่นเดิม นอกจากนี้ รายงานของ Oxfam เปิดเผยว่าทรัพย์สินของคนที่รวยที่สุดในโลก 1% แรกนั้นขยับตัวสูงขึ้นไปอีก และคาดว่าจะมากกว่าทรัพย์สินของคนที่เหลือรวมกันภายในปีหน้านี้ และนี่คือปัญหาใหญ่ของความไม่เท่าเทียมกัน ในขณะที่ 1 ใน 9 คน แทบไม่มีกินและมีรายได้น้อย 50 บาทต่อวัน Bill Gates เจ้าของ Microsoft รวยสุดในโลก 16 ปีแล้ว Getty Images Credit Suisse ให้นิยามคำว่ารวยและมั่งคั่งถึงการถือครองทรัพย์สินที่มีมูลค่า รวมถึงหุ้นในตลาดลงทุน รวมถึงภาวะที่ไม่มีหนี้สิน ซึ่งปัจจุบันกลุ่มชนชั้นกลาง ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในจีนนั้น มีมากกว่าอเมริกากว่า 17 ล้านคน นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่จะทำให้เราเห็นว่าประเทศคอมมิวนิสต์ มีอำนาจทางเศรษฐกิจได้เหนือกว่าโลกเสรีนิยมแล้ว ขณะนี้จีนมีอภิมหาเศรษฐี 596 คน ในขณะที่ อเมริกามี 536 คน โดยในปีนี้มีอภิมหาเศรษฐีหน้าใหม่ของจีนโผล่ขึ้นมาถึง 242 คน อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีจำนวนมากกว่า แต่มูลค่าทรัพย์สินของเศรษฐีอเมริกานั้นยังคงสูงกว่า Wang Jianlin คนจีนที่รวยที่สุด Getty Images จากการจัดอันดับบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกนั้น อันดับ 1 ยังคงตกเป็นของ Bill Gates เจ้าของ Microsoft ที่ครองตำแหน่งนี้มากว่า 16 ปีแล้ว ในขณะที่คนจีนที่รวยที่สุดคือ Wang Jianlin เจ้าของ AMC เจ้าของโรงภาพยนตร์และผู้ก่อตั้งธุรกิจหลากหลายประเภทในเครือ Wanda โดยมีมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่าล้านล้านบาท เห็นหรือยังว่าโลกนี้ยังมีช่องว่างมากมาย ตั้งใจทำการทำงานกันต่อไปนะ สักวันเราอาจจะรวยเหมือนพวกเขาบ้าง ที่มา: Dailymail http://www.kiitdoo.com/รวย-สินทรัพย์-เศรษฐกิจ/

คะน้าฮ่องกงน้ำมันหอย อร่อยไม่จำเจ ทั้งหวาน กรอบ ราดด้วยซ๊อสหวานๆ เค็มๆ

คะน้าฮ่องกงน้ำมันหอย เมนูนี้ เป็นอีกหนึ่งเมนู เพื่อสุขภาพนะคะ แอดมินเชื่อว่าคงมีหลายๆคนที่ชื่นชอบเมนูนี้เหมือนกับแอดมิน คะน้าฮ่องกง หวาน กรอบ ราดด้วยน้ำราดที่มีรสชาติหวานๆ เค็มๆ เข้ากันได้ดีมากค่ะ จะช้าอยู่ใย เรามาทำเมนูนี้กันเลยดีกว่าค่ะ ส่วนผสม 1.คะน้าฮ่องกง 300 กรัม 2.กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ 3.น้ำมันหอย 4 ช้อนโต๊ะ 4.น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ 5.ซอสปรุงรสฝาเขียว 1 ช้อนโต๊ะ 6.น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ 7.เกลือป่น 1 ช้อนชา 8.น้ำเปล่า ไว้สำหรับลวกคะน้า 9.น้ำเย็น ไว้สำหรับแช่คะน้า วิธีทำ 1.  นำคะน้าฮ่องกงมาปอกเปลือกตรงโคนออก แล้วล้างให้สะอาด นะคะ 2.  ต้มน้ำให้เดือดใส่เกลือลงไปเล็กน้อย แล้วเอาคะน้าฮ่องกงลงไปลวก ลวกแค่ 2นาที นะคะ (จะลวกนานกว่านี้ก็ได้ สำหรับคนที่ชอบแบบนิ่มๆ ) แล้วตักขึ้นแช่ในน้ำเย็นที่เตรียมไว้ รอให้คลายร้อนแล้วเอาขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำนะคะ จากนั้นจัดใส่จานเตรียมไว้ค่ะ อย่าลืมหั่นคะน้าฮ่องกงด้วยนะคะ จะได้ทานแบบง่ายๆค่ะ 3.  ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ร้อนแล้วเอากระเทียมลงไปผัดให้หอม แล้วใส่น้ำมันหอย ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย คนให้เข้ากันแล้วรอให้เดือด เสร็จแล้วปิดแก๊ส 4.  ตักน้ำราดลงบนคะน้าฮ่องกงที่เราเตรียมไว้ แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ กับคะน้าฮ่องกงน้ำมันหอย เมนูเพื่อสุขภาพ อร่อยดี มีประโยชน์ ป.ล.1. รสชาติที่ให้ไว้เป็นของจานนี้ ถือว่าเป็นแนวทางนะคะ ใครชอบรสชาติแบบไหนเพิ่มเติมได้ตามชอบเลยค่ะ ***คะน้าฮ่องกง เป็นผักที่มีวิตามินหลายชนิด มี เบต้า–แคโรทีน สูง ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งที่กระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ผักคะน้าฮ่องกงยังมีวิตามินซี ช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อให้ชุ่มชื้น และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันโรคมีความแข็งแรงสมบูรณ์ มีแคลเซียมช่วยเสริมสร้างกระดูก ทำเองอร่อยจัง By Tu Sureewan ที่มา: https://www.facebook.com/1437521676555227/photos/a.1474627932844601.1073741922.1437521676555227/1474627939511267/?type=3&theater

การ์ตูนเล่มละ 5 บาทมาแล้ววว ก๊วนกวน ชวนยิ้ม

การ์ตูนไทยสนุกสนานด้วยมุขขำๆแบบไทยๆ ที่คนไทยเท่านั้นถึงจะเก๊ต และฮา ในราคาเบากระเป๋าด้วย 5-10 บาทเอง

ที่มา: https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1710846152468772&set=a.1572882446265144.1073741828.100006302119487&type=3&theater

แอบส่องภาพสุดสวีท..หนุ่มนักเตะทัพช้างศึก”ตัง-สารัช”

หลังจากที่เพิ่งทำให้ชาวไทยได้ปลื้มอกปลื้มใจ ยิ้มกันแก้มแทบฉีกเพราะไม่เสียแรงที่คอยให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม จนไทยสามารถคว้าชัยชนะจากเวียดนามมาได้ถึง 3 – 0  จนทำเอาเหล่าแฟนคลับคอบอลชาวไทยอดไม่ได้ที่จะดีอกดีใจ ยิ้มหน้าบานกันไปเป็นแถว..

แต่ล่าสุดเราก็แอบไปเห็นรูปคู่สุดสวีทของหนุ่มหล่ออย่าง “ตัง – สารัช อยู่เย็น” กับสาวจ๋า หวานใจสุดเลิฟ ทำเอาสาวๆ อดอิจฉากันไม่ได้ ก็แหม!! ดูแต่ละรูปซิคะ สวีทหวานน้ำตาลเรียกแม่อะไรขนาดนั้น…(T^T แอบเช็ดน้ำตาแปป)

งั้นอย่ามัวรอช้า…เราแอบไปส่องรูปจากไอจีมาฝากเหล่าแฟนคลับให้ชื่นชมความน่ารักของทั้งคู่ ว่าจะหวานกันขนาดไหน ไปดูกันเลย!!!

  

ขอขอบคุณที่มา : www.patjaa.com/เอาแร้วไง-ชะนีไทยปวดใจ/

รูปภาพประกอบ : Instagram | tangsr_6 , jhajarss

ที่มา: http://www.thaihiggs.com/18963

น่าอยู่มาก!! บ้านริมชายหาดที่เหมือนลอยอยู่ในอากาศ

บนถนน Great Ocean Road ใน Fairhaven ตอนใต้ของออสเตรเลีย มีบ้านริมชายหาดที่แสนสวยและลวงตาผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก นั่นก็เพราะ beach house หลังนี้เหมือนจะลอยอยู่กลางอากาศมีเพียงทางเดินเท่านั้นที่เชื่อมต่อไปยังพื้นดิน แต่ความลับคือเมื่อคุณมองบ้านหลังนี้จากมุมมองอื่นๆแล้ว จะพบว่ามีคานที่ช่วยดึงเราออกจากภาพลวงตานั้นได้ ภายในบ้านแสนสวยหลังนี้มีผนังกระจกสูงจากพื้นถึงเพดานที่ช่วยให้คุณเพลิดเพลินไปกับวิวโดยรอบตัวบ้าน

บ้านหลังนี้สร้างโดย  F2 Architecture  และยังเปิดให้เช่าด้วยนะ โดยสนนราคาให้เช่า อยู่ประมาณ 440-1,220 ดอลลาร์เอง อาจจะแพงไปหน่อยนะ แต่รับรองว่าคุณจะได้ความ’โรแมนติก’ เสมือนอยู่ในบ้านวิเศษที่ลอยสูงเหนือมหาสมุทร 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา:http://www.nana108.com/น่าอยู่มาก-บ้านริมชายห/


อ้างอิงจาก : http://www.lostateminor.com/2015/01/22/australia-beach-house-appears-floating-mid-air/

ผลการจัดอันดับมูลค่าแบรนด์ปี 2015: Apple ครองที่ 1, Google อันดับ 2, Nokia หลุด 100 อันดับแรก

Interbrands รายงานผลการจัดอันดับแบรนด์อันทรงคุณค่าหรือ Best Global Brands ประจำปี 2015 โดยเกินครึ่งของ 10 อันดับแรกถูกครองไปด้วยแบรนด์ไอที โดยมีอันดับที่น่าสนใจดังนี้ Apple อันดับ 1 มูลค่า 1.7 แสนล้านดอลลาร์ (เพิ่มขึ้น 43%) Google อันดับ 2 มูลค่า 1.2 แสนล้านดอลลาร์ (เพิ่มขึ้น 12%) Microsoft อันดับ 4 มูลค่า 67,670 ล้านดอลลาร์ (เพิ่มขึ้น 11%) IBM อันดับ 5 มูลค่า 65,095 ล้านดอลลาร์ (ลดลง 10%) Samsung อันดับ 7 มูลค่า 45,297 ล้านดอลลาร์ (เท่าเดิม) Amazon อันดับ 10 มูลค่า 37,948 ล้านดอลลาร์ (เพิ่มขึ้น 29%) แบรนด์ที่เพิ่งติด 100 อันดับแรกมี 2 แบรนด์คือ Lenovo อันดับที่ 100 และ PayPal อันดับที่ 97 Nokia และ Nintendo หลุด 100 อันดับแรกไปแล้ว ที่มา - Interbrand, The Verge https://www.blognone.com/node/73290

ต้มไข่ยังไงให้เป็นยางมะตูม ลองมาดูวิธีการทำกันแบบง่ายๆ รับรองว่าได้ผลแน่

งบเหลือน้อย รวมไปถึงเวลาขี้เกียจทำอะไรหนักๆ จับไข่ต้มน้ำแปปเดียวก็อร่อยแล้ว แต่หลายคนนั้นต่างติดใจในรสชาติของไข่ต้มแบบยางมะตูม ซึ่งไข่แดงจะไม่สุกแบบเต็มที่นัก กินกับข้าวเหยาะน้ำปลานิดหน่อย รสชาติก็อร่อยไม่แพ้ร้านอาหารดังๆเลยล่ะ ในบ้านเลยจะมาพาทำกันครับ หลายคนสงสัยมาตลอดเวลาว่าทำยังไงให้ไข่เป็นยางมะตูม ก่อนอื่นนั้นเราจะไม่ใส่ไข่ไปพร้อมกับน้ำในหม้อแล้วขึ้นต้มนะครับ แต่เราจะใช้วิธีต้มน้ำให้เดือด 100 องศาก่อน อย่าลืมใส่เกลือลงไปด้วยล่ะ พอน้ำเดือดแล้วเราถึงค่อยใส่ไข่ลงไป (การใส่เกลือจะช่วยให้ไข่ไม่แตก) หลังจากนั้นก็จับเวลาตามที่ต้องการ แล้วพอครบเวลาที่กำหนด ให้เอาไข้ขึ้นมาแช่น้ำเย็น(ถ้าเย็นจัดก็ดี) เพื่อป้องกันความร้อนไม่ให้เข้าไปในไข่อีก

มาดูเวลาที่ใช้ในการต้มไข่กันครับ ว่าจะออกมายังไง…. – 6 นาที จะได้ไข่แดงเหลวๆ – 7 นาที ไข่แดงจะแข็งตรงขอบ พร้อมกับตรงกลางเหลวๆ – 8 นาที ตรงกลางของไข่แดงจะเป็นครีม – 9 นาที ไข่แดงสุกแบบปกติ

ที่สำคัญอีกอย่างก็คือ ขนาดของไข่จะมีผลต่อเวลาในการต้มด้วย และไข่ที่ใช้ควรจะเป็นไข่เป็ด (หากเป็นไข่ไก่อาจจะต้องลดเวลาลง 30-45 วินาที) และถ้าเอาออกมาจากตู้เย็น ควรจะเพิ่มเวลาไปอีก 1 นาทีด้วย ลองนำแนวทางนี้ไปใช้ในการต้มไข่ดู เชื่อว่าคงจะทำให้ไข่ต้มมื้อหน้าของหลายๆคนกลายเป็นอาหารอร่อยขึ้นมามากเลยล่ะนะ….

ที่มา: http://okayclick.com/trick-tip/2668
ที่มา: ภัตตาคารฮองมิน

ราชาสถาน ท่องแคว้นแดนฟ้าจรดทราย วัดอัครชาดาม (Akshadham Temple)

ราชาสถาน ท่องแคว้นแดนฟ้าจรดทราย วัดอัครชาดาม (Akshadham Temple)
ปิดท้ายรายการเมืองหลวงวัดฮินดูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นโดยองค์กร BAPS โดย ประมุข สวามี มหาราช(Pramukh Swami Maharaj)เพื่ออุทิศแด่ ท่านสวามีนารายัน (Lord Swaminarayan) ผู้นำนิกาย สวามีนารายัน (Swaminarayan)ของศาสนาฮินดู ในวาระครบรอบ 200 ปี (ค.ศ. 1781-1981) เป็นศูนย์รวมเกี่ยวกับอารยธรรมอินเดีย และมีการแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับวัฒนธรรมและศิลปะต่างๆอาทิเช่น รูปปั้นการกวนเกษียรสมุทรของยักษ์ และเทวดา, รูปปั้นการนั่งบรรลุธรรมใต้ต้นโพธิ์ ซึ่งมีเหล่าสรรพสัตว์ต่างๆ อาทิ ช้าง, กวาง, หมาป่า, ลิง, เสือ คอยรับใช้ เป็นต้น ซึ่งใช้สถาปนิกจำนวนกว่า 7,000 คน ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 5 ปี พร้อมนำท่านชมส่วนของนิทรรศการประวัติของท่านสวามีนารา ยันอย่างละเอียด

วัดอัครชาดาม (Akshadham Temple)ซึ่งเป็นวัดฮินดูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นโดยองค์กร BAPS โดย ประมุข สวามี มหาราช(Pramukh Swami Maharaj)เพื่ออุทิศแด่ ท่านสวามีนารายัน (Lord Swaminarayan) ผู้นำนิกาย สวามี นารายัน (Swaminarayan)ของศาสนาฮินดู ในวาระครบรอบ 200 ปี

ศูนย์รวมเกี่ยวกับอารยธรรมอินเดีย และมีการแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับวัฒนธรรมและศิลปะต่างๆ

ศูนย์รวมเกี่ยวกับอารยธรรมอินเดีย

รูปปั้นการกวนเกษียรสมุทรของยักษ์ และเทวดา, รูปปั้นการนั่งบรรลุธรรมใต้ต้นโพธิ์ ซึ่งมีเหล่าสรรพสัตว์ต่างๆ อาทิ ช้าง, กวาง, หมาป่า, ลิง, เสือ คอยรับใช้ เป็นต้น

สรรพสัตว์ต่างๆ อาทิ ช้าง, กวาง, หมาป่า, ลิง, เสือ คอยรับใช้ เป็นต้น

ผู้นำนิกาย สวามีนารายัน (Swaminarayan)ของศาสนาฮินดู

นิทรรศการประวัติของท่านสวามีนารายัน

นิทรรศการประวัติของท่านสวามีนารายัน

นิทรรศการประวัติของท่านสวามีนารายัน

นิทรรศการประวัติของท่านสวามีนารายัน

สุสานจักรพรรดิหุมายูน (Humanyun Tomb)ต้นแบบของทัชมาฮาล สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1565 โดยคำสั่งของ ฮาจี เบกุม (Haji Begum) พระชายาของจักรพรรดิหุมายูน กษัตริย์องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์โมกุล ออกแบบโดยสถาปนิกชาวเปอร์เซีย ชื่อว่า มิรัก เมอร์ซ่า กิยัส (MirakMirzaGhiyas)

สุสานจักรพรรดิหุมายูน (Humanyun Tomb)

สุสานจักรพรรดิหุมายูน (Humanyun Tomb

สุสานจักรพรรดิหุมายูน (Humanyun Tomb)

ที่มา: https://www.facebook.com/planetbluetravel