วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558

สูตร “ข้าวผัดกิมจิ (Kimchi Fried Rice)” อาหารเกาหลี แสนอร่อย

เราเชื่อว่าหลายๆ คนต้องเคยดูซีรีย์เกาหลีพร้อมทั้งกลืนน้ำลายไปตอนฉากสวีตหวานของพระเอกนางเอกที่ป้อนข้าวผัดกิมจิให้กัน 

ก็ไม่รู้ว่าอิจฉาหรือหิวนะ... 

ถ้าอิจฉา เราช่วยอะไรไม่ได้หรอก...

แต่ถ้าหิว เราช่วยได้ เพราะเรามีสูตรข้าวผิดกิมจิ ที่น่าอร่อยไม่แพ้ในซีรีย์เลยละ  ลองทำดูนะ อย่าอดข้าวอดปลาตอนติดซีรีย์เลย ไม่ดีต่อกระเพาะอาหารนะ
 
 
สิ่งที่ต้องเตรียมมีดังนี้
thewoksoflife.com
 
สำหรับหมักเนื้อหรือหมู
● เนื้อวัวหรือหมูสไลด์บางๆ 1 ถ้วย
● แป้งข้าวโพด 1 ½ ช้อนชา
● น้ำมันงา ½ ช้อนชา
● ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนชา
● น้ำตาล ¼ ช้อนชา
● เหล้าเส้าซิงหรือเหล้าจีน 1 ช้อนชา
 
สำหรับทำข้าวผัดกิมจิ● ไข่ไก่ 4 ฟอง
● น้ำมัน 8 ช้อนโต๊ะ
● หอมใหญ่ขนาดกลาง 1 หัว หั่นเป็นชิ้นขนาดกลาง
● พริกหวานสีแดง 1 ผล หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม
● กิมจิ 1 ½ ถ้วย หั่นหยาบๆ
● ข้าวสวยหรือข้าวกล้องหุงสุก 4 ถ้วย
● เกลือ
● น้ำมันงาน ½ ช้อนชา
● ต้นหอมซอย
● พริกป่นเกาหลี
 
ขั้นตอนการทำ
 
1. ก่อนอื่นใด หมักเนื้อหรือหมูก่อนเลยค่ะ ใส่ส่วนผสมสำหรับหมักทั้งหมดลงในถ้วย คลุกให้เข้ากันแล้วทิ้งไว้ 15 นาที

thewoksoflife.com
 
 
2. เตรียมกระทะตั้งไฟได้เลย ก่อนจะผัดข้าว ขอแนะนำให้ทอดไข่ดาวก่อน  จะได้ไม่ต้องล้างกระทะหลายๆ รอบ ทอดไข่ดาวให้ไข่แดงยังเหลวๆ ไม่สุกนะคะ
 
3. พอเริ่มผัด เปิดไฟแรง ใส่น้ำมันลงในกระทะ 2 ช้อนโต๊ะ พอร้อนแล้วก็ใส่เนื้อหรือหมูหมักลงไปผัด พอสุกก็ตักใส่จานวางไว้ก่อน
thewoksoflife.com
 

4. ใส่น้ำมันลงในกระทะอีกรอบ ใส่หอมใหญ่ลงไป ผัดจนเริ่มใส แล้วก็ใส่พริกหวานลงไปผัดอีกสักหนึ่งนาที
thewoksoflife.com
 
 
5. ตามด้วยพระเอกของเรา กิมจิไงล่ะ จะใครล่ะ
thewoksoflife.com
 

6. ผัดๆ คนๆ ทุกอย่างเข้าด้วยกัน จากนั้นก็เติมข้าวลงไป แล้วผัดให้เข้ากัน

7. หยิบจานใส่เนื้อหรือหมูที่เราผัดไว้แล้วมาค่ะ ใส่ลงไปในกระทะเลย ตามด้วยเกลือ น้ำมันงา ต้นหอมซอย และพริกป่นอีกนิดหน่อย ปรุงให้ได้รสตามชอบนะคะ ชอบกินเค็มหน่อยก็ใส่เกลือเพิ่มเข้าไป ชอบเผ็ดๆ ก็ใส่พริกป่นเพิ่มได้เลย
thewoksoflife.com
 

ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมไข่ดาวที่ทอดไว้แล้ว
thewoksoflife.com
 

สวยจัง อร่อยหรือเปล่าก็ต้องลองชิมเอาเองนะ  แล้วจะร้อง  อื้อหือออออออออ!!!
thewoksoflife.com
 
thewoksoflife.com
 
thewoksoflife.com
 
Cr. thewoksoflife.com
 
 

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2558

แจกสูตรน้ำหยวกกล้วย สมุนไพรล้างพิษ ตับ ไต ไส้พุง

แจกสูตรน้ำหยวกกล้วย สมุนไพรล้างพิษ ตับ ไต ไส้พุง

ไส้กล้วย หรือ หยวกกล้วย เป็นอาหารที่หาง่ายและทำอาหารได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแกง ต้มกระทิ แถมยังนำมาต้มทำชาสมุนไพรไว้ดื่มรักษาสุขภาพได้อีก ชนิดของหยวกกล้วยที่นิยมรับประทานก็คือ หยวกกล้วยตานี หยวกกล้วยป่า หยวกกล้วยน้ำว้า

โดยหยวกกล้วยที่เราจะนำมาปรุงอาหารนั้น ควรเป็นหยวกกล้วยที่ยังไม่ออกปลีหยวกกล้วยนั้นมีใยอาหารที่ช่วยดูดซับสิ่งสกปรกและสารพิษตามลำไส้ กระเพาะ แล้วขับถ่ายออกมา มีธาตุเหล็กซึ่งเป็นตัวช่วยในการกระตุ้นการผลิตฮีโมโกลบิลในเลือด

และจะช่วยในกรณีที่มีสภาวะขาดกำลัง หรือภาวะโลหิตจาง ช่วยบรรเทาอาการเสียดท้อง ป้องกันโรคลำไส้เป็นแผลกล้วยยังไม่ออกเครือมาไว้ทำอาหารทานจะได้คุณค่าทางอาหารสูงกว่าส่วนกล้วยออกเครือแล้วจะใช้มาต้มทำยา เหมือนหลักการเก็บสมุนไพรทั่วไปที่มักจะเก็บหลังออกดอกเพราะจะได้ตัวยาสูงกว่า

สรรพคุณ

ช่วยให้ระบบขับถ่ายปัสสาวะเป็นปรกติ ล้างตับ ไต ไส้พุง สารพิษต่างๆ ภายในร่างกายผ่านออกทางปัสสาวะ ทั้งยังช่วยละลายนิ่วในไต ถุงน้ำดี และต่อมลูกหมาก ให้หมดไปอีกด้วย

วิธีทำ

ลอกกาบกล้วยที่ออกเครือแล้วให้ถึงไส้แกนใน แล้วนำมาหั่นเป็นท่อนๆ ใส่ถุงพลาสติกมัดปากถุง เก็บในตู้เย็น แช่ช่องผัก เวลาใช้ให้นำออกมา ครึ่งกิโลกรัม หั่นเป็นชิ้นเล็กๆต้มกับน้ำ 2 ลิตร โดยต้มน้ำให้เดือดก่อนจึงหรี่ใช้ไฟอ่อน จากนั้นใส่แกนกล้วยในต้นกล้วยลงไป ต้มต่อให้เดือดด้วยไฟอ่อน 10 นาที ยกลง นำน้ำที่ต้มได้มาดื่ม

วิธีใช้

ดื่มครั้งละ 1 แก้วก่อน 30 นาทีก่อนอาหาร เช้า กลางวัน และเย็น

หมายเหตุ 

ท่านที่มีปัญหา ท้องอืด แน่นท้อง หลังรับประทานอาหาร ปวดท้อง ปวดเอว ถ่ายปัสสาวะกะปริบกะปรอย ปัสสาวะขุ่นไม่ใส ปวดแข้ง ปวดขา หนักตัว ให้ดื่มต่างน้ำทั้งวัน วันละ 2 ลิตร โดยดื่มหลังตื่นนอน ตอนเช้า ก่อน 3 แก้ว

จากนั้นทยอยดื่ม ส่วนที่เหลือ ก่อนอาหาร 30 นาที หลังอาหาร 40 นาที ดื่มทุกวันจนกว่าจะหายเป็นปรกติส่วนที่เป็นแกนในที่มีสรรพคุณทางยาคือส่วนของก้านดอกที่แทงออกมาเป็นปลีกล้วยนั้นเอง